•  
  •  
  •  
 
   
   
บันทึกไว้ให้แม่ (2)
   
 
ตอนที่ส่งต้นฉบับให้อาจารย์ชาญณรงค์ไปเมื่อต้นเดือนมกราคม รู้สึกว่าควรจะต้องเขียนเพิ่มเติมเป็นตอน 2 เช่น เรื่องบทบาทของแม่กับการเป็นผู้นำ
ด้านศิลปวัฒนธรรมไทย ต้นเดือนเมษายนที่ โอ๋ โอม โอบ กอด ได้ช่วยกันอ่านต้นฉบับทั้งหมดของหนังสือ ยิ่งรู้สึกภูมิใจในตัวแม่ ขอบพระคุณ ท่านผู้ใหญ่ทุกท่านที่ได้ เขียนถึงแม่ในหลาย ๆ มุมมองคำสัมภาษณ์ที่เราไม่เคยทราบมาก่อน รวมทั้งคำอวยพรอันมีค่า
 
ความเป็นเลือดไทยของแม่ไม่เพียงอนุรักษ์ดนตรีไทย แม่ยังสนับสนุนการแต่งกายของบุคลากรด้วยชุดไทย โดยเฉพาะในการแข่งขันกีฬาสีของโรงเรียน
ในเครือหาดใหญ่อำนวยวิทย์ ที่แม่ริเริ่มมาเมื่อปี พ.ศ.2529 จนถึงครั้งที่ 23 เมื่อปี พ.ศ.2552 ซึ่งการแสดงพิธีเปิดในยุคแรก ๆ นั้นจะต้องเป็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่ เช่น ละครประวัติศาสตร์ไทยสั้น ๆ เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป แม่อนุญาตให้ปรับเปลี่ยนได้ แต่ให้คงความเป็นไทยเอาไว้บ้าง ผลงานที่ถือเป็นการปฏิบัติสู่ความเป็นเลิศ (Best Practice) ของโรงเรียนในเครือหาดใหญ่อำนวยวิทย์ คือ "งานอนุรักษ์และสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย" ซึ่งแม่เป็นผู้ริเริ่มจัดครั้งแรกปี พ.ศ.2538 ที่จุลดิศหาดใหญ่พลา ซ่า โดยจัดแสดง 2 รอบ แม้ว่าครูที่จบนาฏศิลป์มีเพียง 2 คน เท่านั้น แม่ก็เป็นผู้อำนวยการจัดการแสดงดูแลแนะนำการฝึกซ้อมทุกชุดอย่างใกล้ชิดงบประมาณที่ใช้ ปัจจุบันนี้ 3 โรงเรียน ประมาณ 6 หมื่นบาท ช่วง 5 ปีหลังมานี้ ที่แม่เองไม่ได้ประชุมเตรียมงาน โอ๋ก็ได้สานต่อและพัฒนางานประยุกต์ไทยและขอเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น
"งานวัฒนธรรมดนตรีสีสันไทย" เพื่อให้จัดกิจกรรมได้หลากหลายมากขึ้น ปัจจุบันจัดงานไปแล้ว 14 ครั้ง (2552) โดยมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ก็ร่วมแสดงด้วย ตั้งแต่ยัง เป็นวิทยาลัยเมืองหาดใหญ่ในปี พ.ศ.2546 แสดงหน้าลานจอดรถโรบินสัน ปัจจุบันนี้เวลาพวกเราซ้อมใหญ่กัน ณ อาคารศูนย์กีฬาและกิจการนักศึกษามหาวิทยาลัย หาดใหญ่ แม่ก็ไปดูตลอด 3 ชั่วโมง ซึ่งแม่ไม่จำเป็นต้องมาดูแลแล้วก็ได้ แต่แม่ก็นั่งให้คำแนะนำแก่พวกเรา ถามไถ่เรื่องน้ำ-ขนมที่เลี้ยงเด็ก
 
ด้านสถาปัตยกรรมไทยแม่ได้ปลูกเรือนไทยภาคกลางโดยใช้ไม้จากอยุธยา เรือนไทยหลังแรกนี้ สมัยก่อน มีเพียง 2 หลัง ในหาดใหญ่ เรือนที่ 2 ปลูก
โดยใช้ไม้จากจังหวัดลำปาง จนวันนี้ที่มีศูนย์ประณีตศิลป์มูลค่า 30 ล้านบาท ซึ่งถือเป็น Landmark ของมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เท่าที่ทราบมามหาวิทยาลัยใน ประเทศไทยมีเพียง 3 แห่งที่มีอาคารเรือนไทย หรือส่วนของพิพิธภัณฑ์เนื่องจากว่าเป็นการเพิ่มรายจ่ายสูงไม่มีรายได้ นี่ก็เห็นชัดว่าแม่มีเลือดไทยเต็มร้อยแม่ต้องการ ให้คนรุ่นหลัง บุคคลภายนอก ชาวต่างชาติ ได้ชมศึกษาเรื่องราวของเมืองหาดใหญ่ เรื่องของศิลปวัฒนธรรมถิ่นใต้ เรื่องของการก่อสร้างอาคารทุกหลังของโรงเรียนแม่ เป็นทั้งสถาปนิก มัณฑนากร โอ๋จำภาพที่แม่คิดคำนวณตัวเลขไม่ว่าเรื่องที่ดิน ค่าวัสดุเองด้วยวิชาคณิตศาสตร์ที่แม่เก่ง อาคารเรียนหลังแรกคือ อาคารประไพพิศที่ โรงเรียนหาดใหญ่อำนวยวิทย์พณิชการ จนกระทั่งอาคารอำนวยวิทย์ Learning Center และล่าสุดอาคารใหม่ ที่แม่ยังทำเรื่องกู้เงินของสช. มา 40 ล้าน เพราะแม่มี วิสัยทัศน์มองข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา ผลประโยชน์ที่ดีที่สุด คือ บุคลากรและนักเรียนรุ่นใหม่ก็ได้ใช้อาคารเรียนทันสมัย มีลิฟท์แก้วการซ่อมแซมพัฒนาโรงเรียนตลอด ระยะเวลาที่ปิดภาคตุลาคมและปิดเทอมใหญ่ ไม่มีเทอมไหนเลยที่แม่หยุดจ่ายเงินในส่วนนี้ บางรายการแม่ไปคุมเองด้วยซ้ำ เช่น การกั้นเขื่อนริมอาคาร 2 ของโรงเรียน หาดใหญ่อำนวยวิทย์บริหารธุรกิจ เพราะฉะนั้นที่กอดหรือใครบอกว่าหญิงเหล็กนั้น ถ้าใครเคยเห็นภาพที่ว่าคงจะรู้ว่ามันไม่เกินจริงเลย
 
ขอกล่าวถึงงานสังคมสักนิด เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีข่าวใหญ่เรื่อง พลตำรวจเอกสมเพียร  เอกสมญา ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ช่วงนั้นแม
เดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อร่วมจัดงาน 7 รอบ ให้คุณตาประหยัดเหนื่อยอยู่หลายวัน โอบจึงบอกแม่ว่า แม่ลงมาหาดใหญ่แล้วอย่าไปงานผู้กำกับสมเพียรเลย เพราะคน เยอะมาก อย่างหนึ่งแม่ได้ส่งน้ำดื่มและผลไม้ช่วยงานศพแล้ว ปรากฏว่าเมื่อกลับมาหาดใหญ่แม่ชวนโอมไปตอนกลางวันทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่อยากไป ให้กำลังใจครอบครัวนี้และได้ติดต่อขออนุญาตภรรยาผู้กำกับสมเพียร ในการจัดพิมพ์หนังสือชีวิตผู้กำกับ เนื่องจากมีคนจำนวนมากอยากได้ไว้ นี่คือสิ่งที่อยากบันทึกไว้ ว่าแม่มีจิตใจมุ่งมั่นเสมอที่จะให้กำลังใจ กำลังทรัพย์ แก่ผู้ที่ทำประโยชน์แก่บ้านเมืองแล้วต้องประสบชะตากรรมในโอกาสต่าง ๆ
 
งานนอกแม่ไม่หยุดจนโอ๋แซวแม่ว่าเป็นหัวหน้าฝ่ายสัมพันธ์ชุมชนตัวจริง ในขณะที่งานในโรงเรียนแม่ยังดูแลให้ความอบอุ่นกับบุคลากรและนักเรียนใน
โรงเรียนสม่ำเสมอ เช่น ถ่ายรูปหมู่กับนักเรียน ปวช.3 ทุกปีไม่ขาด งานเลี้ยงกลางคืนก็มาอยู่จนดึกดื่น เพราะนักเรียนนอนที่โรงเรียน โรงเรียนหาดใหญ่อำนวยวิทย์ บริหารธุรกิจ แม่ก็อุตส่าห์ตื่นมาถ่ายรูปหมู่กับนักเรียนเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทั้งที่เมื่อวานท้องเสีย 7 ครั้ง! งานเลี้ยงที่โรงแรมกลางคืนก็ยังไปร่วมงานด้วยในวันเดียวกัน นี่คือสิ่งที่ แม่ให้ความสำคัญกับศิษย์ทุกคนทุกรุ่น ทุกโรงเรียนตลอดมา
 
"ชีวิตของอาจารย์ประณีต เป็นชีวิตที่งดงามผ่องแผ้วยิ่งนัก" คือวลีสั้น ๆ ของท่านมงคล  ศรีไพรวรรณ ได้เขียนถึงแม่ไว้ นี่คือสิ่งที่ลูก ๆ และบุคลากร
ภูมิใจว่าเราไม่ได้มีเพียงผู้นำที่เก่งหรือมีแม่ที่เก่งอย่างเดียวเท่านั้นแต่เรามี “ครูของครู” และแม่ที่เป็นคนดีอย่างแท้จริง
   
   
ลูกโอ๋
ภัคชนิตร สัตยารักษ
5 เมษายน 2553