•  
  •  
  •  
 
   
   
สร้างกุศลจิต อุทิศดูแล เผื่อแผ่ผู้อื่น
   
 
ท่านอาจารย์ประณีต   ดิษยะศริน   เป็นผู้มีอุปนิสัยชอบช่วยเหลือ   โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เสียสละและเป็นผู้ให้มาตั้งแต่สมัยที่ท่าน
ยังอยู่ในเด็กวัย  เวลาที่ท่านมีของเล่นหรือมีขนมท่านก็จะแบ่งปันให้แก่ผู้อื่นอยู่เสมอ
 
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ.(พิเศษ)เปรม   ชนะรัตน์    ซึ่งเป็นผู้อาวุโสอีกท่านหนึ่ง   ที่มีโอกาสได้สัมผัสคลุกคลีกับท่านอาจารย์ประณีตมาตั้งแต่ช่วงปฐมวัย
ได้กรุณาเล่าถึงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของท่านอาจารย์ประณีต  ดิษยะศรินไว้ตอนหนึ่งว่า "อาจารย์ประณีตในตอนเด็ก ๆ นั้น นอกจากจะมีนิสัยขี้เล่นแล้ว  ในเรื่อง ของการรับประทาน ท่านจะแบ่งให้ผู้อื่นตลอด"
 
โดยเฉพาะท่านอาจารย์ลักขณา  ดิษยะศริน(ตะเวทิกุล) น้องสาวคนเล็กของท่านอาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน ซึ่งได้รับความช่วยเหลือดูแลอย่างใกล้ชิด
จากพี่สาวคนนี้ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ตอนหนึ่งว่า  "พี่ณีตเป็นคนใจดีมาก  และก็เป็นผู้ให้  ให้กับทุกคน  ไม่ว่าจะให้เพื่อน  ให้พี่ ให้น้อง แล้วตัวดิฉันเอง พี่ณีตก็จะเป็นผู้ให้ อยู่ตลอดเวลา  ไม่ว่าใคร จะรักพี่ณีตมากเลย"
 
ไม่เพียงแต่ในเรื่องของอาหารการกินเท่านั้น   ความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่  แม้จะอยู่ในวัยเด็ก  ซึ่งถือว่าของเล่นมักจะเป็นของรักของหวงตามวัย
แต่สำหรับท่านอาจารย์ประณีตแล้ว  ท่านกลับมีความรู้สึกว่า  ของเล่นควรจะมีไว้แบ่งปัน  มากกว่าที่จะเอาไว้เล่นแต่เพียงตัว ท่านจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีความเสียสละ มาโดยตลอด
 
ดังที่  ดร.ปกิต   กิระวานิช  ลูกผู้พี่ได้กรุณาเล่าย้อนไปในเมื่อครั้งอดีตของท่านอาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน   ดังนี้    
"อาจารย์ประณีต  เป็นคนที่มีความรักใคร่พี่น้องมาก และก็มีความเสียสละ แม้แต่เวลาเล่นของเล่นก็ไม่เคยแย่งใคร"
 
จนกระทั่งเมื่อท่านเติบโตขึ้น   และมีโอกาสได้เข้าเรียนเป็นนักศึกษาในวิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา   ท่านก็ยังแสดงน้ำใจในการช่วยเหลือผู้อื่น
ในเรื่องที่ท่านช่วยได้อยู่เสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่งการให้ความรู้แก่เพื่อนๆ หรือน้องๆ  ซึ่งเป็นการแสดงน้ำใจอย่างดียิ่ง   และเป็นสิ่งที่ท่านพึงจะกระทำได้โดยไม่ต้องซื้อหา
 
เกี่ยวกับเรื่องนี้   คุณโฉมศรี   สุกกสังค์  นักศึกษารุ่นน้องที่วิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา  ได้ให้ข้อมูลไว้ดังนี้    
"พี่ประณีตอยู่ในกลุ่มนักศึกษาภาคใต้ซึ่งนักศึกษาภาคใต้  จะรวมกลุ่มกันเหนียวแน่นกว่านักศึกษาภาคอื่น ๆ  ก็ได้เข้าไปพูดคุย  เวลาคุยกันก็รู้สึกว่ามี ความเป็นกันเอง แม้แต่เรื่องของการศึกษา เมื่อเราไม่ทราบหรือไม่เข้าใจในวิชาไหนก็จะไปสอบถามท่าน  ท่านก็จะอธิบายให้เข้าใจ ท่านเป็นพี่เลี้ยงที่ดี ในสมัยนั้นนักศึกษาจะมีพี่เลี้ยงคอยช่วย แนะนำให้  อย่างเช่นด้านวิชาที่จะต้องใช้ข้อมูลหรือทำกิจกรรม  ทำรายงาน  ท่านก็จะแนะนำให้ในฐานะรุ่นพี่    ท่านเป็นคนที่โอบอ้อมอารีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ดูแลและให้ความเป็นกันเองกับรุ่นพี่รุ่นน้องเสมอ"
 
นอกจากนี้อาจารย์ภารดี   เจตะสานนท์   ซึ่งเป็นเพื่อนกับท่านอาจารย์ประณีตมายาวนาน   ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องของการช่วยเหลือดูแล
เพื่อนฝูงไว้ว่า "ประทับใจอาจารย์ประณีตทุกอย่างที่ท่านให้   อาจารย์ประณีตจะช่วยเหลือทุกอย่าง เช่นว่า ในสมัยที่เรียนไม่ชอบวิชาการฝีมือเย็บปัก ถักร้อย อาจารย์ประณีตก็จะช่วยเหลือเท่าที่จะช่วยได้"
 
จนกระทั่งถึงปัจจุบัน อาจารย์ภารดี  เจตะสานนท์ ก็ยังมีโอกาสได้เห็นถึงน้ำใจไมตรี ที่ท่านอาจารย์ประณีตได้ให้ความช่วยเหลือ เอาใจใส่ดูแลและบริการ
ผู้อื่นอย่างสม่ำเสมอ ดังมีเหตุการณ์อื่นๆที่ท่านได้เล่าเพิ่มเติมไว้ว่า  "เวลาที่เราจะมีการ Meeting รุ่น เราจะนัดพบกันทุกปีที่กรุงเทพฯ ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมกราคมซึ่งเป็นวันครู  ถ้าอาจารย์ประณีตว่างและสะดวกก็จะบินขึ้นมาร่วมในกิจกรรมนัดพบนี้  พร้อมกันนี้ท่านจะขนเสบียงอาหารสารพัด   มีทั้งผลไม้  ขนมมาให้เพื่อน ๆ  และเมื่อรับประทานเหลือก็จะนำกลับบ้านกัน  เป็นแบบนี้อยู่ประจำ"
 
อุปนิสัยชอบช่วยเหลือและเอาใจใส่ดูแลผู้อื่นด้วยความห่วงใย  ปรากฏเป็นที่ประทับใจและซาบซึ้งแก่บุคคลต่าง ๆ ตลอดมา ในเรื่องที่ท่านให้ความช่วย
เหลือผู้อื่นอย่างเต็มกำลังความสามารถนั้น  ปรากฏอย่างเด่นชัดจนเป็นเรื่องราวที่ประทับอยู่ในความทรงจำของอาจารย์ศิริลักษณ์ มโนรมย์   ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบาย และแผน  สำนักงาน คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน    ซึ่งเดิมท่านรู้จักกับท่านอาจารย์ประณีต   ดิษยะศรินในฐานะของเจ้าหน้าที่ดูแลโรงเรียนเอกชน ล่วงผ่าน กาลเวลาแห่งการมีปฏิสัมพันธ์ที่ ค่อย ๆ แนบแน่นและกระชับขึ้นจนกระทั่งเกิดเป็นความรักความผูกพันในที่สุด
 
อาจารย์ศิริลักษณ์  มโนรมย์   ได้เล่าถึงความประทับใจที่มีต่อท่านอาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน ไว้มากมายพอจะหยิบยกรายละเอียดในบางเหตุการณ์ที่
ท่านเล่าไว้ ดังนี้ "ครั้งหนึ่งเรามาอบรมกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง   ตื่นเช้าขึ้นมาวิทยุของท่านผู้บริหารระดับสูงหายไป   ท่านรู้สึกว่า  พักอยู่โรงแรมแท้ ๆ   ทำไมถึงมีคนเข้า มาขโมยเอาไปได้  แต่คนที่ ่เป็นทุกข์ไม่ใช่คนอื่น   กลับเป็นพี่ณีต   พี่ณีตเป็นทุกข์แทน   ในที่สุดพี่ณีตก็ให้คนไปซื้อมาให้ เพราะ พี่ณีตจะรู้สึกว่าเดี๋ยวท่าน จะทำงานอย่างไม่มีความสุข   ก็มีความรู้สึกว่าที่รู้จักพี่ณีตก็เพราะมีความเอื้ออาทรต่อความเดือดร้อนของคนอื่น  พี่ณีตให้ความอบอุ่นมาก ๆ"
 
นอกจากนี้เรื่องที่ท่านได้ให้การช่วยเหลือบุคคลอื่นๆ โดยทั่วไปนั้น  นายแพทย์สัมพันธ์   สกุณา  ซึ่งได้รู้จักกับท่านอาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน มายาวนาน
กว่า 40 ปี กระทั่งมีความสนิทสนมกันเหมือนกับญาติคนหนึ่ง ได้กล่าวถึงท่านอาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน  โดยภาพรวมไว้ว่า  "อาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน  เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือ ผู้อื่น  และบริการดีเหลือเกิน  ท่านเข้าได้กับทุกคน   ตั้งแต่ผู้ใหญ่จนถึงเด็ก ๆ   อาจารย์ประณีตเป็นคนคุยสนุก เราสนิทกัน ก็คุยแบบเปิดเผย ขำขันก็มีบ้าง แล้วแต่โอกาส"
 
ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นเป็นสิ่งที่ท่านมีน้ำจิตน้ำใจและปฏิบัติมาโดยตลอด   แม้กระทั่งในช่วงที่ท่านได้เข้ามาทำหน้าที่ดูแลกิจการบริหารโรงเรียนแล้ว
ท่านก็ยังให้การอุปถัมภ์จุนเจือแก่นักเรียนที่ด้อยโอกาสทางด้านการศึกษาอย่างสม่ำเสมอตลอดมาอีกด้วย
 
ดังเช่นที่ คุณมาลี  แซ่จัง   ศิษย์เก่าท่านหนึ่งของโรงเรียนหาดใหญ่อำนวยวิทย์  ได้ให้ข้อมูลเพื่อยืนยันในสิ่งที่กล่าวถึงในข้างต้นไว้ดังนี้  
"สมัยเด็ก ที่บ้านมีฐานะยากจนมาก ไม่มีค่าเล่าเรียน ท่านอาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน ได้ให้โอกาสเข้ามาศึกษาในโรงเรียนนี้  ประทับใจมาก เพราะว่า  โรงเรียนนี้คุณครูไม่ได้ ให้เพียงความรู้อย่างเดียว แต่ยังปลูกฝังในเรื่องของคุณธรรมให้อีกด้วย ตอนมาโรงเรียนก็ไม่มีเงินจะทานข้าว ครูก็ยังให้เงินไป ทานข้าว ท่านอาจารย์ประณีตเป็นคนที่ดูแลเอาใจใส่เด็กมาก"
 
นอกจากกรณีของคุณมาลี   แซ่จัง  ดังที่กล่าว  ท่านอาจารย์ยังได้ให้การสนับสนุนเงินทุนเพื่อให้โอกาสทางการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษาที่มีความ
ประพฤติดี ผลการเรียนดี หรือมีผลงานด้านกิจกรรมที่โดดเด่นแต่ฐานะยากจนมาโดยตลอด  โดยท่านได้ริเริ่มจัดตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาขึ้นหลายกองทุน  อาทิ   กองทุนเพื่อการศึกษา ท่านอาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน  มหาวิทยาลัยหาดใหญ่   ทุนการศึกษานักศึกษามหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ทุนนักเรียนผู้ขาดแคลนในโรงเรียน หาดใหญ่อำนวยวิทย์  ทุนนักเรียน ผู้ขาดแคลนโรงเรียนหาดใหญ่อำนวยวิทย์พณิชยการ   เป็นต้น
 
และไม่เพียงท่านจะให้การช่วยเหลือแก่ผู้ที่อยู่ในความปกครองดูแลเท่านั้น   บุคคลอื่นๆ ที่แม้จะอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบโดยตรง หากมีเรื่องใดที่
ท่านพอจะให้การช่วยเหลือได้   ท่านก็จะให้การสนับสนุนดูแลอย่างเต็มที่เสมอ
 
ดังเช่นเรื่องที่   อาจารย์สุธน  เจริญพงศ์  ผู้อาวุโสที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่ชาวสงขลามาอย่างยาวนาน   ได้กรุณาเล่าย้อนไปในสมัยที่ท่าน
อาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน ได้เคยให้ความช่วยเหลือสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ไว้ดังนี้   "ในสมัยที่ผมยังเป็นอาจารย์ที่วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่   ผมได้พึ่งพา อาศัยท่านอาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน โดยโรงเรียนหาดใหญ่อำนวยวิทย์ได้อนุญาตให้วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ยืมเครื่องจักร  เครื่องมือได้ตลอดเวลา   ผมจึงได้สนิทสนมกับท่านอาจารย์ประณีต    และตอนนั้นท่านก็เริ่มเป็นผู้บริหารแล้ว"
 
อุปนิสัยชอบช่วยเหลือและบริการผู้อื่น  ยังได้ปรากฏอยู่ในคำบอกเล่าของ  ศ.ไชยยศ  เหมะรัชตะ อดีตศาสตราจารย์  คณะนิติศาสตร์ 
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปัจจุบันท่านเกษียนและดำรงตำแหน่ง  ราชบัณฑิตสาขากฎหมายเอกชน สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ราชบัณฑิตสถาน   โดยท่านได้ กรุณาเล่าไว้ ดังนี้  "ผมได้รู้จักกับอาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2516  ตอนนั้นผมเป็นอาจารย์ใหม่ ๆ ซึ่งในช่วงปิดเทอม คณะนิติศาสตร์   จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มาเปิดศูนย์แนะนำกฎหมายเคลื่อนที่  ในส่วนของภาคใต้เราเลือกอำเภอหาดใหญ่เป็นสถานที่ตั้งศูนย์  ในครั้งนั้นได้รับ ความกรุณาจากท่านอาจารย์ประดิษฐ์   ดิษยะศรินและท่านอาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน  ให้คณะของเราได้ใช้สถานที่ของโรงเรียนหาดใหญ่อำนวยวิทย์ เพื่อเป็นที่ทำการ   และผมเป็นอาจารย์ที่ควบคุมนิสิตมา   ประมาณ 12  คน  เป็นนิสิตชั้นปีที่  3  และปีที่ 4   ซึ่งมาฝึกความเชี่ยวชาญชำนาญงาน   ก็ได้พักอาศัยเข้าออกและกินนอนอยู่ที่นี่"
 
เกี่ยวกับเรื่องการมาขอใช้โรงเรียนหาดใหญ่อำนวยวิทย์เป็นที่ทำการของ  ศ.ไชยยศ  เหมะรัชตะ ตั้งแต่เมื่อครั้งอดีตนั้น   ดร.วิทวัส  ดิษยะศริน สัตยารักษ์
ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงสิ่งที่ไม่ได้คาดฝันว่า  ในเวลาต่อมาท่านอาจารย์ประณีต    ดิษยะศริน   รวมถึงมหาวิทยาลัยหาดใหญ่   ซึ่งเป็นสถานศึกษาที่ท่านอาจารย์บริหาร อยู่จะได้มีโอกาสต้อนรับ  ศ.ไชยยศ   เหมะรัชตะ   อีกครั้ง   ซึ่งครั้งนี้เป็นวาระสำคัญอีกครั้งหนึ่ง   เนื่องด้วยมหาวิทยาลัยหาดใหญ่กำลังเตรียมการที่จะเปิด คณะนิติศาสตร์ รวมทั้งกล่าวว่า   ไม่นานมานี้เองทราบจากคุณตาประหยัด  ดิษยะศรินว่า   คุณทวดดัด  ดิษยะศริน  เป็นเนติบัณฑิตรุ่นแรกของประเทศไทย  และท่านก็ เคยดำรงตำแหน่ง อดีตผู้พิพากษาและอัยการ
 
นอกจากนี้  ดร.วิทวัส   ดิษยะศริน   สัตยารักษ์   ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมไว้ว่า  "เมื่อประมาณปี 2543 มหาวิทยาลัยหาดใหญ่  ได้ต้อนรับ
ศ.ไชยยศ  เหมะรัชตะ  มาเป็นประธานพิจารณาเปิดคณะนิติศาสตร์  ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ยอมรับว่าท่านเป็นปรมาจารย์ทางด้านนิติศาสตร์คนสำคัญ อีกท่านหนึ่งของประเทศไทย   การมาเป็นประธานในครั้งนี้  ท่านอาจารย์ประณีต   ดิษยะศริน   ก็คลับคล้ายคลับคลา  เหมือนคุ้น ๆ ว่าจะเคยรู้จักกับท่าน มาก่อน  แต่ก็ยังจำท่านไม่ได้   เนื่องจากว่าเหตุการณ์ผ่านไปหลายสิบปี  ผลปรากฏว่า  ศ.ไชยยศ   เหมะรัชตะ ได้ให้ความช่วยเหลือดูแลในเรื่อง ของ หลักสูตรที่มหาวิทยาลัยจะเปิดอย่างเต็มที่  และเป็นที่ทราบกันดีว่าในการดำเนินการเปิดคณะนิติศาสตร์นั้น   เป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ ที่จะดำเนินการให้ แล้วเสร็จลุล่วง  แต่ในที่สุดมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ก็สามารถดำเนินการได้อย่างเรียบร้อย    ภายหลัง  ศ.ไชยยศ   เหมะรัชตะ ถึงได้เล่าเรื่องราวเมื่อครั้ง อดีตที่ท่านอาจารย์ประดิษฐ์  และท่านอาจารย์ประณีต   ดิษยะศริน   รวมถึงโรงเรียนหาดใหญ่อำนวยวิทย์  ได้เคยช่วยเหลือเกื้อกูลไว้  จนเกิดเป็นความ ประทับใจซึ่งกันและกันนับเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน   เหตุการณ์นี้นับเป็นความบังเอิญและเป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงผลของการที่ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ได้อย่างเป็นรูปธรรมที่สุด"