|
|
|
|
|
จากรายละเอียดที่หยิบยกมาดังกล่าวข้างต้น ความสอดคล้องกับที่ คุณเมชิณี พัวพันรัตนะ ศิษย์เก่าโรงเรียนหาดใหญ่อำนวยวิทย์ ได้กล่าวถึง |
ความเข้มงวดในการสอนของท่านอาจารย์ประณีต ดิษยะศริน เอาไว้ว่า "โรงเรียนหาดใหญ่อำนวยวิทย์ เป็นโรงเรียนที่มีระเบียบค่อนข้างเข้มงวด กฎค่อนข้างเยอะและ นักเรียนส่วนใหญ่จะกลัวท่านอาจารย์ประณีต โดยเฉพาะการทำโทษของท่านนั้น ท่านจะถือไม้เรียว ไม้เรียวของท่านค่อนข้าง ยาวมาก เดินผ่านใคร ถ้าคนไหนทำไม่ถูกท่านจะเรียกและตีก้น จนมาถึงตอนนี้ ถ้านึกถึงท่านอาจารย์ประณีตจะนึกถึงเมื่อครั้งอดีต ย้อนนึกไปว่าอะไร ที่เราทำผิด ๆ เราก็จะไม่ ทำอีก เพราะว่าเราจะมีท่านอาจารย์เป็นต้นแบบของความถูกต้อง ท่านอาจารย์ไม่ชอบคนเหลวไหล" |
|
นอกจากนี้ คุณไพรัช ทองเจือ ศิษย์เก่าโรงเรียนหาดใหญ่อำนวยวิทย์อีกท่านหนึ่ง ได้กล่าวถึงความมีระเบียบของท่านอาจารย์ประณีต ดิษยะศริน |
เอาไว้ว่า "ในตอนที่ท่านเริ่มเป็นครู ท่านเป็นคนที่มีระเบียบมาก ทำให้ผมรู้สึกกลัวท่านในตอนนั้น แต่เมื่อหลังจากที่ผมเรียนจบไปแล้วและได้มาคุยกับ ท่านอีกครั้ง จากความกลัวในตอนนั้นกลายเป็นความรักในตอนนี้ ผมมีความประทับใจมากและอยากขอบพระคุณท่านที่เป็นแบบอย่างที่ดีงามให้แก่ผม" |
|
คำพูดจากผู้ที่เคยเป็นลูกศิษย์ลูกหาของท่านอาจารย์เปี่ยมไปด้วยคุณค่าเสมอ สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นทั้งภาพสะท้อนและเป็นน้ำหล่อเลี้ยงที่จะทำให้หัวใจ ู |
ของผู้ที่เป็นครูได้รู้สึกชุ่มชื่นเบิกบาน และพร้อมที่จะทำงานต่อไปด้วยความมุ่งมั่น เสียสละ จนกว่าสังขารจะไม่เอื้ออำนวย |
|
ด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธา ตามแนวทางที่บุพการีได้วางไว้ ท่านอาจารย์ประณีต ดิษยะศริน ได้ซึมซับมาตั้งแต่เล็กจนโต จากรุ่นสู่รุ่น นับเป็นอานิสงค์ |
อันที่ได้หล่อหลอมให้ท่านอาจารย์เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจ ในการที่จะสืบสานสถานศึกษาจนประสบความสำเร็จดังเช่นในปัจจุบัน ผู้ที่ใกล้ชิดกับท่านอาจารย์ประณีต ได้กล่าวว่า คุณลักษณะดังกล่าวนี้ เป็นผลมาจากการมีต้นแบบที่ดีในการดำเนินชีวิต ซึ่งก็คือ ท่านอาจารย์ประดิษฐ์ และคุณยายลำดวน ดิษยะศริน คุณพ่อและ คุณแม่ของท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านอาจารย์ประณีต ก็ได้ทำหน้าที่ของผู้สืบทอดเจตนารมณ์ที่ดีมาโดยตลอด |
|
เกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณภิญโญ รัตนมณี ศิษย์เก่าของโรงเรียนในเครือหาดใหญ่อำนวยวิทย์ ได้กล่าวถึงกลยุทธ์ในการสอนศิษย์ของท่าน |
อาจารย์ประดิษฐ์ ดิษยะศรินเอาไว้ โดยเล่าถึงการอบรมสั่งสอนศิษย์โดยเฉพาะการอบรมหน้าเสาธง ท่านอาจารย์ประดิษฐ์ ดิษยะศริน ได้ประพันธ์บทร้อยกรองแล้ว ให้ศิษย์ของท่านท่องจำเป็นประจำทุกวัน หรือนำมาใช้เป็นบทลงโทษแก่นักเรียนที่กระทำความผิด โดยทำให้ศิษย์จดจำบทประพันธ์ดังกล่าวเพื่อให้เกิดจิตสำนึก ในการกระทำแต่ความดี ดังบทกลอนที่ท่องจำกันจนขึ้นใจว่า |
|
|
"จงละชั่วทำดีอย่าผลีผลาม ทำให้งามวันละนิดจิตแจ่มใส
ใครละชั่วทำดีเป็นศรีไทย เมื่อเติบใหญ่จะสุขสมอารมณ์ปอง
ใครละดีทำชั่วต้องมัวหมอง ตามทำนองต้องได้ชั่วน่ากลัวหลาย
ใครละดีทำชั่วทั้งหญิงชาย จงจำหมายต้องได้ชั่วน่ากลัวเอย" |
|
|
|
หรือแม้แต่กลยุทธในการฝึกความมีระเบียบวินัยในการเข้าแถว ท่านอาจารย์ประดิษฐ์ ดิษยะศริน จะเดินตรวจแถวนักเรียนด้วยตนเองเป็นประจำทุกวัน |
ท่านจะตรวจความสะอาดร่างกาย การเข้าแถวก็ต้องให้เป็นระเบียบและเน้นหนักเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของการตรงต่อเวลา ถ้าศิษย์คนใดของท่านทำผิดระเบียบวินัยแถว คนทั้งแถวต้องร่วมกัน รับผิดชอบ นอกจากจะเป็นการสร้างวินัยให้แก่ตนเองแล้วยังเป็นการสร้างวินัยให้แก่หมู่คณะอีกด้วย |
|
หรือในขณะที่ท่านเดินตรวจห้องเรียน หากมีห้องใดว่างท่านก็จะนำศิษย์ห้องนั้นไปเข้าแถวสวดมนต์ในห้องพระส่วนตัวของท่าน เสร็จแล้วก็จะอบรมสั่งสอน |
มีอยู่ตอนหนึ่งท่านอาจารย์ประดิษฐ์ ดิษยะศริน ได้ถามศิษย์ของท่านว่า "ใครต้องการคาถาเรียนเก่งบ้าง" ศิษย์ของท่านต่างก็มีความต้องการ "คาถาเรียนเก่ง" กันทั้งสิ้น ท่านจึงบอกคาถาให้ศิษย์ฟังว่า คาถานั้นคือ "สุ จิ ปุ ลิ" หรือ "หัวใจนักปราชญ์" นั่นเอง คือท่านพยายามสอนให้ศิษย์ของท่าน รู้จักฟัง รู้จักคิด และเมื่อมีข้อสงสัย ก็ให้รู้จักถาม เมื่อเข้าใจดีแล้วก็ให้รู้จักจดบันทึก กลวิธีการสอนของท่านดังกล่าว นับว่าเป็นการสร้างให้ศิษย์ของท่านเป็นบุคคล ที่มีความใฝ่หาความรู้อยู่เสมอนั่นเอง |
|
คุณลักษณะต่าง ๆ ดังกล่าว ได้ถ่ายทอดมาสู่ท่านอาจารย์ประณีต ดิษยะศริน ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม เกี่ยวกับเรื่องนี้ท่านอาจารย์ประณีต ดิษยะศริน |
ได้กล่าวถึงคุณพ่อและคุณแม่ของท่านไว้ว่า "ท่านทั้งสองเป็นครูต้นแบบ เป็นปูชนียบุคคลที่สมบูรณ์แบบ เพราะท่านเป็นแบบอย่างแก่ครูอาจารย์ และ ศิษย์ ตลอดจนบุคคลรอบข้าง เพราะท่านมีความเมตตากรุณาและมีจาคะ คือให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านจะให้ได้ สำคัญที่สุดก็คือ ท่านได้ให้การอบรม สั่งสอน ศิษย์ด้วยตัวของท่านเอง โดยสอนให้มีคุณธรรม จริยธรรมและมีระเบียบวินัย ตามที่ท่านได้ประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีมาโดยตลอด คุณพ่อจะ ให้ศิษย์กล่าวปฏิญาณตนหน้าเสาธงทุกเช้าโดยใช้หลักของพระพุทธศาสนา คือคนทำดีจะได้ดี คนชั่วจะได้บาป ให้ทุกคนเกรงกลัว การทำบาป สิ่งเหล่านี้ ได้ติดตามมาจนทุกวันนี้ ศิษย์เก่าของท่านต่างก็ประทับใจในเรื่องการดูแลเอาใจใส่ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคน เพราะฉะนั้น ลูกหลาน ครูอาจารย์และ ศิษย์ จึงถ่ายทอดคุณธรรมเหล่านี้มาเป็นลำดับจนถึงปัจจุบัน โรงเรียนจึงมีความเจริญเติบโตขึ้นตามลำดับ" |
|
ด้วยความภาคภูมิใจและด้วยจิตวิญญาณแห่งความเป็นครู ที่ท่านอาจารย์ประณีต ดิษยะศรินได้รับการสั่งสมบ่มเพาะมานี้ ท่านอาจารย์ได้กล่าว |
แสดงความรู้สึกไว้เป็นปัจฉิมบทแห่งการอาลัยต่อคุณยายลำดวน ดิษยะศริน ไว้ดังนี้ "ดิฉันมีความภาคภูมิใจ ปลาบปลื้มใจ ที่ได้สืบสานการศึกษา สร้าง เยาวชน ตั้งแต่ชั้น อนุบาล จนกระทั่งถึงระดับชั้นขั้นมหาวิทยาลัย จากปู่-ย่า-พ่อ-แม่-ลูก-หลาน และได้ยึดมั่นที่จะทำนุบำรุงต่อพระพุทธศาสนารวมถึง บำเพ็ญประโยชน์ต่อ ผู้อื่น และดำรงตนอยู่ในสังคมอย่างมีเกียรติ" |
|
นับเป็นอีกบทหนึ่งแห่งความภาคภูมิใจ มิใช่แต่เฉพาะคนในตระกูลดิษยะศริน หากแต่เป็นความภาคภูมิใจของคนในชุมชนท้องถิ่นตลอดจนคนทั้งแผ่นดิน |
ที่ได้มีบุคคลซึ่งมีจิตวิญญาณแห่งความเป็นครูเติบโตและสืบทอดในสิ่งดี ๆ ให้ยั่งยืนยาวต่อไปอย่างมิมีวันสูญหาย |
|
|
|
|
|
|
|