ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ ประเภททั่วไป
เรียน ท่านนายกสภามหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ผู้บริหาร แขกผู้มีเกียรติ บัณฑิตทั้งระดับปริญญาตรี และบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ทุกท่าน
ขอบคุณสภามหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ในการเสนอชื่อให้ผมได้รับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ ถือว่าเป็นเกียรติยศ ความภาคภูมิใจ และขอสัญญากับที่ประชาคมตรงนี้ว่า จะทำหน้าที่ให้สมกับเกียรติยศศักดิ์ศรีที่ท่านมอบให้กับผม แม้จะเกษียณอายุแต่ยังได้ทำหน้าที่ดูแลบ้านเมืองและจะทำให้เต็มความสามารถต่อไป
ปรัชญาของมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ คือ “รู้คิด รู้ธรรม รู้สำเร็จ” สำหรับคำว่ารู้ธรรม ผมขอแบ่งเป็น รู้ธรรมะและรู้ทำ โดยผมขอนำศาสตร์พระราชา ที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้พูดว่า “มีข่าวดีจะแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ 2 เรื่องคือ 1) จากการสำรวจโดย CTI เป็นสถาบันประมวลในเรื่องของการทุจริตคอรัปชั่น จัดระดับโลก 186 ประเทศ ประเทศไทยจัดลำดับที่ 96 นั่นคือความพยายามของรัฐบาลในการปราบคอรัปชั่นมีผลสัมฤทธิ์ และ 2) ข่าวดีการสำรวจให้คะแนนระดับโลกเหมือนกัน ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีคนทุกข์หรือเดือดร้อนน้อยที่สุด” แต่อย่าไปแปลว่ามีความสุขมากที่สุดในโลก คนที่มีความเดือดร้อนคือคนที่ได้รับความแก้ไข คนยากคนจนได้รับความสนใจ ใส่ใจ นี่คือสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการและนำไปสู่ความสำเร็จ ทั้ง 2 อย่างที่พูดผลสำเร็จออกมา มันคือกระบวนการคิดของรัฐบาลมาตามลำดับ
รัฐบาลชุดนี้มาจากช่องทางพิเศษ เข้ามาด้วยวิธีพิเศษ และรัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่มีพื้นฐานความคิดจากข้าราชการประจำ เพราะฉะนั้นในส่วนของช่วงเวลาที่ผ่านมาคนเหล่านี้คือนักปฏิบัติ ได้เห็นถึงปัญหาชัดเจนว่าอะไรคือปัญหาอุปสรรค อะไรคือสิ่งที่เราแค่คำนึงถึง ทำงานเสร็จแต่ไม่สำเร็จ อย่างที่ท่านอาจารย์สุธี พูดกับพวกเราว่า “อย่าสักแต่ทำงานให้เสร็จ เราต้องทำงานให้สำเร็จด้วย” ตรงนี้เองรัฐบาลก็คิดว่าอะไรที่มันเป็นปัญหาอุปสรรค เช่น ผมเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รัฐบาลนี้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาออกกฎหมายไปทั้งหมด 383 ฉบับ เป็นจำนวนกฎหมายที่ออกมามากกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง 3 สมัย 12 ปี ยังออกได้แค่ 152 ฉบับ กฎหมายเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เรื่องของการทวงหนี้ มันคือชีวิตจริง คนที่มาทวงหนี้วันนี้ต้องขึ้นทะเบียน ขึ้นทะเบียนรับที่มีหน้าที่ทวงหนี้ ทวงหนี้ต้องมีกำหนดเวลา มีข้อกำหนดห้ามไปข่มขู่ ต้องแจ้งล่วงหน้า ต้องทำเป็นความลับไม่สามารถไปเปิดเผย ไปช่วยไหว้วานคนอื่นทวงหนี้ให้ไม่ได้ อยากเล่าให้บัณฑิตทั้งหลายรับทราบว่าปัญหาเล็ก ๆ เหล่านี้ เราเอามาคิด มันคือชีวิตจริง นี่คือเรื่องกฎหมาย ทำให้เรารู้ว่า รัฐบาลชุดนี้ก็มาเปลี่ยนมาปรับปรุงโครงสร้าง เช่น เรื่องของน้ำ เรามีน้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำอุปโภค บริโภค บางทีน้ำท่วมเป็นเพราะฝน เราห้ามไม่ได้ แต่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญว่า ถ้าท่วมแล้วท่วมอีก ท่วมที่เดิมอย่างนี้ ไม่จำเป็นต้องมีรัฐบาล ไม่จำเป็นต้องมีรองผู้ว่าฯ ไม่จำเป็นต้องมีผู้ว่าฯ ก็มาคิดว่าทำอย่างไร น้ำท่วมไม่ท่วมที่เดิม หรือท่วมน้อยลง ระบายได้เร็วขึ้น ใครเป็นผู้จัดการน้ำ วันนี้เรามีกระทรวงทรัพยากรน้ำเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ นี่คือโครงสร้าง เรื่องของวิธีการปฏิบัติอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง นี่คือสิ่งหนึ่งที่รัฐบาลชุดนี้ได้ทำขึ้น
เมื่อได้รู้ถึงปรัชญาของสถาบันแห่งนี้และได้มาคุยกับท่านอธิการบดี ผมบอกว่าวันนี้ผมมาเป็นคนในครอบครัวของมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ผมยังคิดว่าสิ่งหนึ่งที่ท้าทาย การอบรม สั่งสอน ผลิตบัณฑิตออกไปไม่ได้ต่างกับที่อื่น ไม่ต่างกับสถาบันที่อื่น แต่สิ่งหนึ่งที่เราอยากให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้เกิดขึ้นในฐานะที่ผมเป็นคนในครอบครัวแล้ววันนี้ ผมอยากจะให้มหาวิทยาลัยหาดใหญ่เป็นมหาวิทยาลัยแห่งคุณธรรม ผมว่านี่คือสิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการและสังคมต้องการ ลองนึกสิครับว่าคน 2 คน จบมาจาก 2 แห่ง ผู้ประกอบการเจ้าของกิจการ คนหนึ่งกำลังจะเลือก แต่คนนี้จบมาจากมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ที่มีข้อรับรองว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยคุณธรรม 3 เรื่อง คือ 1) ความซื่อสัตย์ มีความเชื่อใจมั่นใจ 2) ความรับผิดชอบ มีความทุ่มเทตั้งใจในการทำงาน และ 3) จิตอาสา มีน้ำใจ ช่วยเหลือกัน เป็นการผูกใจระหว่างเพื่อนร่วมงานด้วยกัน ผูกใจความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเจ้านาย วันนี้เราต้องเริ่มคิดและผลิตบัณฑิตที่ดีมีคุณธรรม เพื่อสิ่งนี้ก็จะตกทอดไปถึงบรรดาคนที่จบจากมหาวิทยาลัยไปแล้วด้วยเช่นกัน เนื่องจากความเป็นบัณฑิตมหาวิทยาลัยหาดใหญ่จะติดตัวเราทุกคนที่สำเร็จการศึกษาไป และถ้าหากคนในประชาคมนี้คิดอย่างนี้ มันคือเกียรติ ศักดิ์ศรีของเราด้วยเหมือนกัน อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง
ผลการสำเร็จของงานทั้งหลายของรัฐบาลและการคิดผลิตบัณฑิตโดยใช้ปรัชญาของมหาวิทยาลัย ที่สามารถสะท้อนได้คือ รัฐบาลมีการวางแผน รัฐบาลมีการปรับปรุงโครงสร้างต่าง ๆ รัฐบาลมีการดำเนินการทุกอย่างเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ จนวันนี้ทั้ง 2 เรื่องทำสำเร็จ แล้วก็อยู่ในระหว่างการดำเนินการ อย่างเช่น โครงการไทยนิยมยั่งยืน นั่นคืออันหนึ่งที่เราพยายามที่จะย้ำว่า เราเป็นประเทศที่ทุกข์น้อยที่สุดในโลก วันนี้รัฐบาลส่งทีมงานเดินสายไปถามในครัวเรือน แต่ละครัวเรือนเดือดร้อนอะไร ทุกข์ใจเรื่องอะไรกำลังดำเนินการอยู่ ขนาดแค่คิดจะดำเนินการเราอยู่อันดับ 1 แล้ว และความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาตรงนี้ นี่คือสิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่า รัฐบาลประสบความสำเร็จ มาจากปรัชญาความคิด เหมือนกับที่เป็นปรัชญาของมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ที่ได้บ่มเพาะและปลูกฝังสู่บัณฑิตทั้งหลายที่ได้สำเร็จการศึกษาในวันนี้ และนับจากนี้ก็คงอยู่ที่บัณฑิตทุกคนว่าจะสามารถนำความรู้คู่คุณธรรมที่ได้รับไปขยายและปฏิบัติให้เห็นจริงจังเพื่อการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ
สิ่งหนึ่งที่ผมขอฝากไว้กับประชาคมแห่งนี้ แล้วผมขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ผมขอเป็นกำลังร่วมกับพวกเรา ในการที่จะขับเคลื่อนให้มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ของเรา เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีเด่นในเรื่องของคุณธรรมให้ได้
นายภาณุ อุทัยรัตน์
วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
Back