•  
  •  
  •  
 
   
   
 
ท่านอาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยเข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัยครูสวนสุนันทาและเป็นนักเรียนประจำอยู่ที่นั่น ศึกษาอยู่ที่วิทยาลัย
ครูสวนสุนันทาได้ 2 ปี ก็ไปศึกษาต่อที่วิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง ในปีที่ 3 และปีที่ 4 รวมระยะเวลา 2 ปี ซึ่งใน ช่วงที่ท่าน ศึกษาเล่าเรียนอยู่นั้น มีจำนวนผู้เรียนไม่มากเหมือนกับสมัยนี้ ทำให้ผู้ที่เข้าไปเรียนอยู่ในรั้ววิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยาในยุคสมัยนั้นรู้จักกันแทบ ทั้งหมด
 
โดยเฉพาะท่านอาจารย์ประณีต  ดิษยะศรินนั้น ขึ้นชื่อว่ามีความถนัดและมีความโดดเด่นเป็นพิเศษในเรื่องวิชาคณิตศาสตร์ ท่านจะคอยเป็นพี่เลี้ยง และ
ถ่ายทอดความรู้ให้กับเพื่อนๆ และน้องๆ ในเวลาที่ติดขัดอยู่เสมอ จนคนรอบข้างต่างก็เห็นในความโอบอ้อมอารี ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และความเป็นกันเองที่ท่านอาจารย์ หยิบยื่นมาโดยตลอด
 
กระทั่งสำเร็จการศึกษา ในปี พ.ศ.2504 ท่านอาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน ก็ได้กลับมาช่วยทำงานสืบสานกิจการโรงเรียนของคุณพ่อและคุณแม่ โดยเข้ามา
รับหน้าที่เป็นครูใหญ่ ตั้งแต่อายุได้ 22 ปี ซึ่งนับว่าเป็นครูใหญ่ที่ยังสาวมากในยุคสมัยนั้น
 
การได้กลับมารับหน้าที่เป็นครูใหญ่หลังสำเร็จการศึกษาของท่านอาจารย์ประณีตในครั้งนี้ เรียกได้ว่าสมดังใจของคุณพ่อและคุณแม่เป็นอย่างยิ่ง โดยที่ท่าน
ทั้งสองปรารถนาจะให้ลูกสาวคนโตได้กลับมาเป็นครู จากความรู้สึกที่เคยขัดแย้งอยู่ภายในใจของท่านอาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน มาตั้งแต่ต้นก็ปลาสนาการไปจนสิ้น เมื่อท่านได้เริ่มต้น วิถีชีวิตแห่งความเป็นครูด้วยการทำงานครูอย่างจริงจัง ท่านกลับรู้สึกเหมือนได้ค้นพบตนเองว่า แท้จริงแล้วท่านนั้นรักและชอบในการเป็นครู เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีหลายสิ่ง หลายอย่างที่ตรงกับนิสัยของตนเอง
 
บทบาทหน้าที่ของครูใหญ่ในวัยสาวดำเนินไปด้วยความเข้มข้นและมุ่งมั่น จนกระทั่งล่วงผ่านการทำงานมาได้ระยะหนึ่ง โรงเรียนหาดใหญ่อำนวยวิทย์
ก็มีความเจริญเติบโตขึ้นโดยลำดับ ซึ่งทุกย่างก้าวที่ดำเนินรุดหน้าไปนั้น มีปรัชญาในการบริหารจัดการโดยใช้หลักคุณธรรมเป็นที่ตั้ง
 
นอกจากนี้ท่านอาจารย์ประณีตยังมุ่งเน้นและให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของความมีระเบียบวินัย ซึ่งหากจะกล่าวไป คุณสมบัติและอุปนิสัยเหล่านี้
เองที่อาจารย์ประดิษฐ์  ดิษยะศริน ซึ่งเป็นคุณพ่อพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะปลูกฝังและถ่ายทอด รวมถึงปฏิบัติให้ดูเป็นแบบอย่าง ซึ่งท่านอาจารย์ประณีต ก็ได้ซึมซับ ตัวอย่างที่ดี ๆ นั้น ไว้กับตัวตลอดมา ดังที่ท่านอาจารย์ประณีตได้กล่าวถึงคุณพ่อซึ่งเป็นเสมือนต้นแบบของท่านไว้ว่า
   
 

"คุณพ่อเป็นคนรักงาน ตั้งใจอย่างจริงจังที่จะสร้างศิษย์ สร้างงาน ให้มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ มีระเบียบแบบแผน มีระเบียบวินัย จึงเป็นที่ยอมรับของศิษย์ ผู้ปกครอง บุคคลทั่วไป ตลอดจนในวงราชการ สิ่งเหล่านี้ทำให้ลูกได้เรียนรู้และรักในอาชีพนี้ มีกำลังใจที่จะสร้างสรรค์ให้เจริญพัฒนายิ่ง ๆ ขึ้นไป"

   
 
และก็ใช่ว่าจะมีแค่เพียงเรื่องของระเบียบวินัยเท่านั้นที่ท่านอาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน ได้รับการปลูกฝังและถ่ายทอดมาจากท่านอาจารย์ประดิษฐ์ เพราะ
แม้แต่อุปนิสัยในด้านอื่นๆ ท่านก็ได้ถอดแบบมาจากคุณพ่อแทบจะทุกอย่าง ดังปรากฏความที่ พล.อ.อ.ประหยัด  ดิษยะศริน กล่าวถึงอุปนิสัยของหลานสาว ไว้ดังนี้
   
 

"อาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน เป็นลูกสาวคนหัวปีของพี่ชายผม คืออาจารย์ประดิษฐ์  ดิษยะศริน อาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน ได้ลอกเลียนแบบคุณพ่อมาเกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัยใจคอ ความมุ่งมั่นจริงจังในการทำงาน ความโอบอ้อมอารี มีจิตใจกว้างขวาง เผื่อแผ่สังคมโดยรวม อีกทั้งมีกุศลจิตทางพระพุทธศาสนา อาจารย์ประณีต ดิษยะศริน ก็มิได้ขาดตกบกพร่อง เธอทำอย่างเต็มใจและศรัทธา สิ่งที่น่าชื่นชมและเทิดทูนเป็นแบบอย่างแก่ลูกหลานในสังคม นั่นก็คือ กิริยามารยาท ความเคารพนอบน้อมต่อผู้ใหญ่สมกับเป็นแบบฉบับ ของครูบาอาจารย์ที่แท้จริง"

   
 
นับได้ว่าท่านอาจารย์ประณีต  ดิษยะศริน ได้เก็บเอาแบบอย่างในสิ่งที่ดี ๆ มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต รวมถึงเป็นแบบอย่างในการบริหารและ
ปกครองบุคลากรด้วยการทำงานอย่างมีแบบแผน มีการติดตามดูแลทุกข์สุขของบุคคลรอบข้าง เหมือนดั่งเป็นคนที่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน